test update
test update test updatetest updatetest updatetest updatetest update
wordpress plugin dropdown menu
1.jquery-mega-menu โหลดที่นี้
เว็บที่ได้ลองติดตั้งแล้ว http://www.admin-service.rmutt.ac.th ลองเอา Mouse ไปชี้ที่เมนูด้านข้างหัวข้อ สิทธิประโยชน์ที่ควรทราบ
2. jquery-drill-down-ipod-menu โหลดที่นี้
เว็บที่ได้ลองติดตั้งแล้ว http://www.ir.rmutt.ac.th ตรง Main menu ด้านข้างชอบแบบไหนก็ลองโหลดไปใช้ดูนะครับ
ติดตั้ง MRTG Centos
- # yum install httpd
- #service httpd start
- #chkconfig httpd on
- # yum install mrtg
- # echo “export LANG=en_US” >> /etc/rc.local
- # cfgmaker -global “options[_]:bits,growright” –global “workdir:/var/www/html” public@localhost /etc/mrtg/mrtg.cfg
- # /usr/bin/mrtg /etc/mrtg/mrtg.cfg
- # indexmaker –columns=1 –sort=title –output=/var/www/html/index.html /etc/mrtg/mrtg.cfg
- # crontab -e
- * * * * * /usr/bin/mrtg /etc/mrtg/mrtg.cfg
- ….จบ….
Yum update centos ku
- # cd /etc/yum.repos.d
- # mv CentOS-Base.repo CentOS-Base.repo.bak
- # wget http://mirror1.ku.ac.th/yum-centos/5/CentOS-Base.repo
วันนี้มาไร้สาระดีกว่า(เอาเพลงมาBlogขำๆๆกัน)แต่สามารถดัดแปลงไปทำให้มีสาระได้
1. ให้เราเพิ่มไฟล์เพลงลงไปโดยให้เราคลิกไปที่สื่อแล้วคลิกเพิ่มไฟล์ใหม่
2. ให้เรากดBrowseแล้วเลื่อกเพลงMP3ที่เราต้องการแล้วได้อัพโหลด
3. เราจะได้ไฟล์เพลงตารูปแล้วคลิกไปที่ไฟล์เพลง
.
4.เราจะเข้ามาหน้าอัปเดตสื่อให้เราcopy URL ของไฟล์ไว้
5.ทำการ copy code ที่เตรียมไว้ให้ลงไว้ใน Notepad
<html xmlns=”http://www.w3.org/1999/xhtml“>
<body>
<div align=”center”>
<table width=”150″ height=”60″ border=”0″ align=”center”>
<tr>
<td align=”center” valign=”bottom”>
</td>
<td align=”center” valign=”bottom”>
<object classid=”CLSID:22D6F312-B0F6-11D0-94AB-0080C74C7E95″ codebase=”http://activex.microsoft.com/activex/controls/mplayer/en/nsmp2inf.cab#Version=6,0,02,0902” type=”application/x-oleobject” width=”170″ height=”50″ align=”top” standby=”Loading Microsoft? Windows Media? Player components…” id=”MediaPlayer”><param name=”FileName” value=”เอา code จากข้อ4มาใส่ตรงนี้” />
<param name=”AutoStart” value=”true” />
<param name=”ShowPositionControls” value=”false” />
<param name=”ShowDisplay” value=”false” />
<param name=”ShowTracker” value=”false” />
<param name=”ShowCaptioning” value=”false” />
<param name=”ShowGotoBar” value=”false” />
<param name=”ShowStatusBar” value=”true” />
<param name=”EnableContextMenu” value=”false” />
<param name=”Volume” value=”-200″ />
<param name=”displaySize” value=”0″ />
<param name=”autoSize” value=”false” />
</object>
</td>
</tr>
</table>
</div>
</body>
</html>
6.แล้วไปที่รูปแบบบล็อกเลือก widgets แล้วลาก ข้อความ ไปว่างในช่อง sidebar Blog แล้วเอา code จากข้อ4ที่ใส่เพลงลงไปแล้วลงมาในช่องข้อความ
7.แล้วกดบันทึกแล้วเข้าดูที่หน้า web หลักจะมี windows player จะเล่นเพลงที่เราต้องกา
วันนี้เอาหนังสือมาฝาก (มนต์คลายโกรธ)
หนังสือ มนต์คลายโกรธ
กินกาแฟอย่างมีศิลป์ ถูกต้อง และอร่อย
ไปร้านกาแฟ หลายคนคงประสบปัญหาแบบนี้
- งงมั้ย เครื่องปรุงหลายกระปุกเค้ามีไว้ทำไม?
- แท่งๆไม้ กับพลาสติกใช้ทำอะไร?
- เอสเปรสโซกินแบบไหน
- คาปูชิโนกินแบบไหน
- ทำไม คาราเมลแมกคิอาโต้ ต้องแยกนมกับกาแฟ
- แพ้คาเฟอีน หมอสั่งห้ามกินกาแฟ ทำไงดี
กาแฟเป้นเครื่องดื่มที่ให้ทั้งกลิ่นและรสชาติ เรามารู้จักวิธีการกินกาแฟแต่ละประเภท ให้ถูกวิธีกันเถอะ
____________________________________
เครื่องปรุงรสและกลิ่น
แน่นอน เมื่อคุณได้กาแฟถ้วยโปรดมาแล้ว ถ้าร้านที่บริการตนเอง
คุณก็จะถือถ้วยเดินมาตรงมุมเครื่องปรุง ซึ่งมีอะไรอยู่มากมาย
ซึ่งมันจะมีอยู่แค่ไม่กี่อย่างหรอกครับ เรามาทำความรุ้จักกัน
เครื่องปรุงรส
- น้ำตาลทรายขาว บางร้านมีเป็นก้อน บางร้านก็เป็นซอง เป็นสารให้ความหวานแบบบริสุทธิ์
ละลายง่าย ละลายเร็ว
-น้ำตาลเกล็ดไม่ขัดสี สำหรับคนที่ชอบความหวานแบบค่อยๆละลาย ไม่นิยมคนให้ละลาย
เมื่อทานกาแฟหมดจะเหลือน้ำตาลก้นถ้วย ซึ่งจะเปลี่ยนเป็นรสคาราเมล
- บางร้านมีน้ำตาลทรายแดง เป็นน้ำตาลที่ไม่ได้ฟอกสี เป็นธรรมชาติที่สุด มีกลิ่นน้ำตาลไหม้ และกากน้ำตาลติดอยู่
อีกทั้งยังมีสรรพคุณทางยา เช่น บำรุงกำลัง แก้ปวด เลือดไหลเวียนสะดวก น้ำตาลแบบนี้จะให้กลิ่นและรสเป็นเอกลักษณ์
- สารแทนความหวาน สำหรับคนที่ต้องการหวานแบบรักสุภาพ และลดน้ำหนัก มีราคาแพงร้านดังๆจะมีให้บริการ
- น้ำเชื่อม สำหรับเติมพวกเครื่องดื่มเย็น
-นมสด เติมความหอมมันให้กับกาแฟถ้วยโปรด
กระปุกปรุงกลิ่น
กระปุกๆพวกนี้ จะมีเครื่องปรุงกลิ่น ใส่อยู่ เช่น
- ผงโกโก้
- ผงวะนิลา
- ผงชินาม่อน
- ผงถั่วเฮเซลนัต
- ผงเครื่องเทศต่างๆ
หลายคนเข้าใจผิดว่า พวกนี้ใช้เติมรสกาแฟ ก็เขย่าๆเทๆลงไป บางคนแล้วใหญ่ เทลงเครื่องดื่มเย็น-”-
แต่แท้จริงแล้ว กระปุกพวกนี้ใช้เติมกลิ่นในเครื่องดื่มร้อนเพียง 1-2 เหยาะ เท่านั้น
เวลาเรายกกาแฟขึ้นดื่ม จมูกเราก็จะสูดกลิ่นของเครื่องปรุงพวกนี้ เมื่อโดนความร้อนก้จะส่งกลิ่นหอมออกมา
นิยมใช้โรยหน้าพวกคาปูชิโน หรือคาเฟ่ลาเต้ซะส่วนใหญ่
- อย่าเอาไปโรยเครื่องดื่มเย็นนะ งั้นคุณจะเสียใจ เพราะรสชาติมันแหวะมากๆ
Decaf & Half-Caf
เป็นที่รู้กันอยู่ ว่ากาแฟนั้นมีเจ้าสารตัวดี ที่มีทั้งคุณและโทษอยู่ คาเฟอีน
ซึ่งบางคนก็มีอาการแพ้มันอย่างรุนแรง หรือหมอสั่งห้าม แต่อารมณ์อยากกินกาแฟมันไม่ไหวแล้ว
ทำยังไงดี
กาแฟสกัดสารคาเฟอีนคือคำตอบ Decaf จะทำให้ได้กาแฟเอสเปรสโซรสชาติและกลิ่นเหมือนเดิม
แต่ปราศจากสารคาเฟอีน
หรืออีกทางเลือกหนึ่ง คือลดมันซะครึ่งนึง ด้วย Half-Caf เป้นการผสมชอตธรรมดา กับ ชอตที่Decaf
**การ Decaf ทำได้แค่บางร้านเองนะครับ ส่วนใหญ่ป็นร้านระดับพรีเมี่ยม ต้องบอกบาริสต้าก่อนนะครับ
ที่สำคัญ ราคาฟรีฮะ
__________________________________________________________________
อุปกรณ์เครื่องดื่มร้อน
- ไม้คนกาแฟ
-ไม้คนกาแฟผสมหลอด [ไม่มีภาพให้ดูอ่ะครับ]
จะเห็นได้ตามร้าน 7-11 มีลักษณะเป็นพลาสติกแบนๆ แต่มีรู
มองหน้าตัดจะได้ดั่งรูป ” o-o ” ใช้คนกาแฟ และดูดเครื่องดื่มร้อน
ข้อดีของมันคือ เวลาเราดูดเครื่องดื่มร้อน มันจะช่วยลดความร้อนจากกาแฟได้
ส่วนมากจะใช้สำหรับผู้ที่ขับขี่รถยนต์ แล้วไม่สะดวกในการยกขึ้นดื่ม มักแถมมากับกาแฟสำเร็จรูป
- ปลอกกันร้อน สำหรับกันความร้อนจากกาแฟเวลาถือเดินทาน
- ฝาปิด กันเครื่องดื่มกระเซ็นออกนอกแก้ว[สังเกตรูเล็กๆบนฝา ใช้ปักหลอดแบบที่อธิบายไป หรือยกซดครับ]
***เครื่องดื่มเย็นไม่มีอะไรเป็นพิเศษครับ
____________________________________________________________________
วิธีทาน Espresso
- Espresso ที่ดีเวลาเสริฟต้องร้อน มีฟองสีทองปกคลุมทั่วทั้งแก้ว มีกลิ่นหอมรุนแรง ที่สำคัญไม่มีแบบเย็น
- เอสเปรสโซ่จะถูกเสริฟในแก้ว ขนาดเล็ก ปริมาณเพียง 1-2 ออนซ์ เท่านั้น ถ้านอกจากนี้ไม่ใช่แล้ว
- รสชาติกาแฟและกลิ่นที่ดีที่สุดจะอยู่เพียง 5นาทีหลังจากน้ำกาแฟไหลจากเครื่อง หลัง5นาที รสชาติจะค่อยๆเปลี่ยนไป
- การดื่มแบบอิตาเลี่ยนแท้ๆต้องดื่มทันทีที่เสริฟ และดื่มให้หมดภายในชอตเดียว ไม่ต้องเติมน้ำตาล หรือนม
- เมื่อน้ำกาแฟเข้าปากแล้วอย่าเพิ่งกลืน ให้อมไว้ในกระพุ้งแก้มก่อนสักครู่ แล้วค่อยๆกลืนลงท้อง
- กลิ่นกาแฟและรสชาติจะคงอยู่ในปาก ประมาณ30นาที
***หลังจากนั้นควรล้างปากด้วยน้ำเปล่า หรือน้ำชา ดับกลิ่นไม่พึงประสงค์ของกาแฟ
- สำหรับผุ้ที่เริ่มดื่ม อาจจะผสมน้ำตาลไป 1 ช้อนโต๊ะแล้วค่อยๆจิบก็ได้
- รสชาติจริงๆ จะขมนำ แต่หวานชุ่มคอ ภายหลัง เหมือนรสคาราเมล
วิธีทานCappucino
- คาปูชิโนที่ดี ให้ดูที่ฟองนม ที่หนา ละเอียด นุ่ม
**ทดสอบคุณภาพการตีฟองนมได้ โดยใช้ช้อนตักฟองนมขึ้นมาแล้วคว่ำช้อนลง ฟองนมที่ดีจะไม่หล่นจากช้อน
- คาปูชิโนนิยมกินร้อนๆ ในหน้าหนาว ก่อนทานเอามืออังถ้วยประคองขึ้นมารับไออุ่น
- เลือกโรยหน้าด้วย โกโก้ หรือ ชินาม่อน เล็กน้อยเพิ่มความหอมเวลายกขึ้นดื่ม
- ไม่ควรใช้ช้อนคนฟองนมจนแตก หากต้องการละลายน้ำตาลให้ คนเบาๆไม่ให้ฟองนมหายไป
- การกินค่อยๆยกซด ให้น้ำกาแฟผ่านฟองนม เมื่อทานหมดแล้วยังเหลือฟองนมและผงโรยหน้าก้นถ้วย
- การทานจริงๆไม่นิยมใส่น้ำตาล เพราะนมที่ทำการสตรีมแล้วจะมีไขมันความหวานธรรมชาติออกมาอยู่แล้ว
- คาปูชิโนจะทานในมื้อเช้า เพราะนมทำให้หนักท้อง ไม่เมหือนเอสเปรสโซที่นิยมกินหลังอาหารเพื่อล้างปาก
- คาปูชิโนเย็น ให้เลือกทานลาเต้เย็นแทน เพราะฟองนมเย็นๆนั้นชวนแหวะมากๆ
### กรณีCafe’ Latte ให้ใช้วืธีทานแบบเดียวกัน
-ไม่ควรใช้ช้อนคนลายลาเต้ที่บาริสต้าทำให้ เพราะเป็นการดูถูกบาริสต้า ที่ตั้งใจทำลายนั้นขึ้นมา
วิธีทานMocha
- มอคค่าเป็นกาแฟที่ผสมชอกโกแลตซอส เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบรสขมกาแฟมากนัก
- ปกติมอคค่าจะมีวิปปิ้งครีมโปะหน้าเพิ่มความหอมมันใก้กาแฟ แต่ใครไม่ทานไม่ใส่ก็ได้
- การดื่ม ห้ามใช้ช้อนคนวิปปิ้งครีมผสมเข้ากับเครื่องดื่ม ให้ใช้ช้อนตักทานเป็นคำๆ ควบคู่กับดื่มกาแฟ
- มอคค่าไม่จำเป็นต้องใส่น้ำตาลเพิ่ม เพราะชอกโกแลตซอสจะหวานอยู่แล้ว
- มอคค่าทานคู่กับบราวนี่ หรือเค้กชอกโกแลตจะเข้ากันมากที่สุด
วิธีทาน Caramel Macchiato
- เครื่องดื่มนี้มีขายเฉพาะร้าน และสูตรแตกต่างกันไป แต่มีวิธีกินที่แปลกกว่าชาวบ้านเค้า
- คาราเมล แมกคิอาโต้ จะเป็นกาแฟผสมนมสด ไซรัปรสวะนิลาก้นถ้วน นมสด โปะด้วยฟองนมราดคาราเมล
- ไม่จำเป็นต้องปรุงเพิ่ม เพราะมีไซรัปวะนิลาอยู่ก้นถ้วยอยู่แล้ว
- เครื่องดื่มเย็นจะถูกเสริฟแบบแยกชั้นมา ระหว่างนมกับกาแฟ มันมีเหตุผลของมัน อย่าใช้หลอดคนผสมกัน
เวลาทานให้เอาหลอดดูด ไล่ขึ้น ไล่ลง ระหว่างชั้นนม กับกาแฟ แล้วจะรู้รสชาติแสนวิเศษที่ผสมกันในปากของเรา ^^
**นมชั้นล่างสุดจะหวาน ชั้นกลางจะจืดหอมมัน ชั้นกาแฟจะขมหอมคาราเมล
- วิธีทานแบบร้อน คล้ายกับคาปูชิโน
วิธีทานกาแฟปั่น
- การปั่นที่ดีน้ำแข็งต้องละเอียด ดูดแล้วลื่นคอ เนียน ทิ้งแก้วไว้ไม่เกิดการแยกชั้นของเครื่องดื่ม
- ไม่มีฟองกาแฟลอยอยู่บนเครื่องดื่มปั่น
- ถ้าเครื่องดื่มมีวิปปิ้งครีม อย่าคนวิปปิ้งครีมละลายเข้ากับเครื่องดื่ม เพราะมันจะทำให้เลี่ยน
- ก่อนจะดูดแต่ละที คนเครื่องดื่มให้เข้ากันก่อน เพราะเครื่องดื่มปั่นบางชนิดเช่นชอกชิพจะไปกองอยู่ก้นถ้วย
- เมื่อซื้อมาแล้ว อย่าแช่ตู้เย็นเก็บไว้ทานทีหลัง เพราะจะเกิดเกร็ดน้ำแข็ง รสชาติจะเพี้ยนขึ้นเรื่อยๆ
- รีบทานให้หมดก่อนที่น้ำแข็งจะละลายทำให้กาแฟจืด
_________________________________________________________________
หลังดื่มกาแฟ
กลิ่นปากหลังดื่มกาแฟ เป็นสิ่งที่นักดื่มกาแฟทุกคนต้องเจอ
เมื่อดื่มกาแฟเสร็จแล้ว สักครู่พอรสชาติในปากเริ่มจางหาย
ให้ดื่มน้ำเปล่าหรือน้ำชา กลั้วคอล้างกลิ่นกาแฟสักหน่อย มิฉะนั้นเพื่อนร่วมงานอาจจะมองหน้าได้
ร้าน Black canyon จะเสริฟน้ำชาให้ 1 shot ไว้ล้างปากหลังดื่มกาแฟด้วยครับ
==============================================
ยังมีเรื่องราวกาแฟอีกมากมาย เก็บไว้คราวหน้าจะมาต่อนะครับ -”-
ช่วงนี้สอบมิดเทอมงานเยอะมากมาย ดองบลอกไว้นานมากๆ
ยังไม่ได้พาไปทัวร์ร้านกาแฟอร่อยที่ผมไปตระเวนชิมมาเลย
ที่มา http://icedlatte.exteen.com/20080722/entry
ชีวิตนี้… อยู่อย่างไรให้มีความสุข
เวลาเจองานหนัก ให้บอกตัวเองว่า นี่คือโอกาสในการเตรียมพร้อมสู่ความเป็นมืออาชีพ
เวลาเจอปัญหาซับซ้อน ให้บอกตัวเองว่า นี่คือบทเรียนที่จะสร้างปัญญาได้อย่างวิเศษ
เวลาเจอความทุกข์หนัก ให้บอกตัวเองว่า นี่คือแบบฝึกหัดที่จะช่วยให้เกิดทักษะในการดำเนินชีวิต
เวลาเจอนายจอมละเมียด ให้บอกตัวเองว่า นี่คือการฝึกตนให้เป็นคนที่สมบูรณ์แบบ(perfectionist)
เวลาเจอคำตำหนิ ให้บอกตัวเองว่า นี่คือการชี้ขุมทรัพย์มหาสมบัติ
เวลาเจอคำนินทา ให้บอกตัวเองว่า นี่คือการสะท้อนว่าเรายังคงมีความหมาย
เวลาเจอความผิดหวัง ให้บอกตัวเองว่า นี่คือที่ธรรมชาติกำลังสร้างภูมิคุ้มกันให้ชีวิต
เวลาเจอความป่วยไข้ ให้บอกตัวเองว่า นี่คือการเตือนให้เห็นคุณค่าของการรักษาสุขภาพให้ดี
เวลาเจอความพลัดพราก ให้บอกตัวเองว่า นี่คือบทเรียนของการรู้จักหยัดยืนด้วยขาตัวเอง
เวลาเจอลูกหัวดื้อ ให้บอกตัวเองว่า นี่คือโอกาสทองของการพิสูจนความเป็นพ่อแม่ที่แท้จริง
เวลาเจอแฟนทิ้ง ให้บอกตัวเองว่า นี่คือความเป็นอนิจจังที่ทุกชีวิตมีโอกาสพานพบ
เวลาเจอคนที่ใช่แต่เขามีคู่แล้ว ให้บอกตัวเองว่า นี่คือประจักษ์พยานว่าไม่มีใครได้ทุกอย่างดังใจหวัง
เวลาเจอภาวะหลุดจากอำนาจ ให้บอกตัวเองว่า นี่คือความเป็นอนัตตาของชีวิตและสรรพสิ่ง
เวลาเจอคนกลิ้งกะล่อน ให้บอกตัวเองว่า นี่คืออุทาหรณ์ของชีวิตที่ไม่น่าเจริญรอยตาม
เวลาเจอคนเลว ให้บอกตัวเองว่า นี่คือตัวอย่างของชีวิตที่ไม่พึงประสงค์
เวลาเจออุบัติเหตุ ให้บอกตัวเองว่า นี่คือคำเตือนว่าจงอย่าประมาทซ้ำอีกเป็นอันขาด
เวลาเจอศัตรูคอยกลั่นแกล้ง ให้บอกตัวเองว่า นี่คือบททดสอบว่าที่ “มารไม่มีบารมีไม่เกิด”
เวลาเจอวิกฤต ให้บอกตัวเองว่า นี่คือบทพิสูจน์สัจธรรม “ในวิกฤตย่อมมีโอกาส”
เวลาเจอความจน ให้บอกตัวเองว่า นี่คือวิธีที่ธรรมชาติเปิดโอกาสให้เราได้ต่อสู้ชีวิต
เวลาเจอความตาย ให้บอกตัวเองว่า นี่คือฉากสุดท้ายที่จะทำให้ชีวิตมีความสมบูรณ์
จากท่าน ว. วชิรเมธี
ทดสอบ Red5
Red5
Real-time Multi-player gaming
Multi-user video chat
Stream Music/Audio
Stream video Record Video Record Audio
Broacast Live Streams to anyone with a flash client
กำลังทำการทดสอบว่า V 1.0 มีอะไรบ้าง
SEO คืออะไร
SEO มาจากคำว่า “Search Engine Optimization” หมายถึง กระบวนการที่ทำให้เว็บไซต์ ปรากฏอยู่ในตำแหน่งที่ดีที่สุดของผลการค้นหาผ่าน Search Engine ด้วย Search Keyword ที่เกี่ยวข้องกับ ธุรกิจ ข้อมูล เนื้อหา บทความ สินค้าและบริการ ที่นำเสนอผ่านเว็บไซต์ของเรา โดยรักษาให้อยู่ในตำแหน่งที่ดีที่สุดเสมอ (ปกติจะพยายามทำให้อยู่ในหน้าแรกของการค้นหา)
ทำ SEO ต้องเสียค่าใช้จ่ายหรือไม่ ?
คำตอบก็คือ การทำ SEO ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายสำหรับการจัดลำดับโดย Search Engine แต่ถ้าค่าใช้จ่ายสำหรับการจ้างเจ้าหน้าที่ หรือ ผู้เชี่ยวชาญนั้นในการทำ SEO นั้นต้องเสียแน่นอนครับ แล้วแต่ว่าจะมากน้อยเพียงใดตามข้อตกลง ถึงแม้คุณจะอยู่ในลำดับที่ 1 ในหน้าแรกก็ตาม แต่การทำ SEO นั้นจะต้องใช้ทักษะความรู้ ตลอดจนระยะเวลาในการทำให้เว็บไซต์ของเราติดอันดับในหน้าแรก (โดยปกติหากมีทักษะอยู่แล้วไม่เกิน 6 เดือน)
ทำไมเราต้องทำ SEO ?
คำถามนี้อาจฟังดูแล้วธรรมดา แต่ในความรู้สึกผม ผมว่ามันไม่ธรรมดา การทำ SEO ต้องอาศัยทั้งทักษะและประสบการณ์มากมาย กับกฏเกณฑ์ที่ไม่ตายตัวของแต่ละ Search Engine อีกด้วย ถามว่าทำไมเราต้องทำ SEO ด้วยหละ ผมจะขอตอบแบบที่เข้าใจกันง่าย ๆ ก็แล้วกันครับ เพื่อจะได้เข้าใจตรงกันตามประเด็นนี้มากขึ้น
1. เพื่อให้เว็บไซต์ของเราได้รับการจัดลำดับ ในอันดับที่ดีขึ้น (ยิ่งเป็นอันดับที่ 1 ใน Keyword นั้น ๆ ด้วยยิ่งดี)
2. เพื่อให้มีคนได้มีโอกาสเข้าเว็บเรามากขึ้นโดยการคลิกที่ลิงค์จากการค้นหาผ่าน Search Engine
3. เพื่อเป็นการประหยัดค่าโฆษณาเว็บไซต์ของเรา ที่ไปติดโฆษณาในที่ต่าง ๆ
4. เพื่อทำให้เว็บไซต์เราสามารถขายสินค้าและบริการได้มากขึ้น (อันนี้เหมาะกับเว็บ e-Commerce และ e-Marketing ต่าง ๆ )
5. เพราะการค้นหาข้อมูลผ่าน Search Engine มีคนใช้ถึง 81% เราต้องทำให้คนรู้จักเราให้ได้มากที่สุด
6. การทำ SEO เป็นการประหยัดเวลาระยะยาว (แต่ใช้เวลาทำนานไม่น้อยกว่า 6 เดือน)
7. ถ้าคุณติดลำดับต้น ๆ ในหน้าแรกแล้วจะทำให้เกิดการคลิกและเข้าเว็บเรามากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
8. เพื่อเป็นการพัฒนาเว็บไซต์ เพื่อให้เกิดการใช้งานโดยผู้ใช้ ไม่ใช่แค่เรากับเพื่อนเรา
9. เหตุผลอื่น ๆ ที่คุณอยากให้เว็บคุณเป็น
จะเห็นได้ว่าการทำ SEO นั้นมีผลดีโดยรวมทั้งสิ้น ถึงแม้จะใช้เวลาในการพัฒนานานก็ตาม แต่ผลตามมาคุ้มค่ามาก เพราะหากคุณได้รับการ Index ในหน้าแรกของการค้นหาผ่าน Search Engine แล้วหละก็ผลดีดีต่าง ๆ จะตามมาหลาย ๆ อย่าง และอีกประการการทำ SEO นั้นมีผลดีในระยะยาว (แต่คุณต้องไม่ใช้วิชามารในการทำ SEO หนะครับเพราะถ้าทำอย่างนั้นไม่นาน Search Engine ต่าง ๆ จะเริ่มแบนคุณภายในไม่เกิน 1 ปีอย่างแน่นอน)
ข้อสำคัญอีกประการ สำหรับการทำ SEO ถ้าคุณติดลำดับในหน้าแรกหรือหน้าที่สองแล้ว พยายามรักษาลำดับนั้น ๆ ให้ได้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้เพราะนั่นคือ ลำดับที่ดีที่สุดสำหรับเว็บของคุณแล้วครับในเบื้องต้น.
ที่มา Makemany.com